สายไฟลงดิน ดีกว่ามีเสาไฟฟ้าจริงหรือ

เมื่อก่อนเวลาชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยก็มักจะถ่ายรูปคู่กับวัด อาหารไทย หรือสถานที่เที่ยวสวยๆ เพื่อเป็นการเช็คอินว่า “มาถึงประเทศไทยแล้วนะ” แต่เดี๋ยวนี้เหมือนเขาจะเปลี่ยนเทรนด์กันแล้วล่ะครับ ต้องถ่ายรูปคู่กับเสาไฟ ถึงจะเรียกว่ามาถึงแล้วโดยสมบูรณ์ อย่างเช่นคุณรัสเซล โครว์ ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ถ่ายรูปเสาไฟในไทยจนเป็นไวรัลดังแล้ว 1

เสาไฟไม่ผิด! แต่สายใดๆ ที่นำมาพาดผ่านเสานั่นแหละครับ ที่ทำให้ชาวต่างชาติถึงกับต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ทั้งสายไฟ สายเคเบิลทีวี สายสัญญาญโทรศัพท์ พันกันอิรุงตุงนังจนฝรั่งยังงง จนเป็นที่มาของกระแสอยากให้นำสายไฟลงดินนั่นเอง

เสาไฟ 1 ต้น มีสายอะไรบ้าง

เป็นมากกว่าเสา ก็เสาไฟฟ้านี่แหละ เพราะไม่ใช่แค่รับหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อสายไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีอีกสารพัดสายที่พาดผ่านมันไปด้วย นอกจากสายไฟฟ้าส่วนบนที่เป็นสายส่งไฟฟ้าแรงสูงแล้ว ถัดลงมาอีกนิดก็จะเป็นสายไฟฟ้าแรงต่ำ และถัดลงมาอีกก็จะเป็นพวกสายโทรศัพท์ สายอินเตอร์เน็ต สายเคเบิลทีวี ฉะนั้นคงไม่แปลกถ้าเราจะมองขึ้นไปแล้วหงุดหงิดสายตา ก็เล่นเอาสารพัดสายมารวมกันขนาดนี้นี่นา สายไฟไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นสายอื่นๆ มากกว่าที่มีปัญหาครับ

การนำสายไฟลงดิน

เชื่อเลยว่าคนส่วนใหญ่ก็อยากจะให้นำลงดินให้หมด แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันคงไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกครับ ไม่งั้นเราก็คงเห็นถนนโล่งๆ ไร้สายไร้เสากันหมดแล้ว ถึงการนำสายไฟลงดินจะได้รับความนิยมเพราะมีข้อดีเยอะ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่ก็ย่อมมีข้อจำกัดแตกต่างกันไป เรามาดูข้อดีและข้อเสียของการนำสายไฟลงดินกันครับ

ข้อดีของการนำสายไฟลงดิน

· ป้องกันการชนกับวัตถุ เช่น กิ่งไม้หักโดน ก็อาจทำให้สายไฟชำรุดจนขาดการจ่ายไฟได้

· ถ่ายโอนพลังงานได้ดีกว่า เพราะเมื่ออยู่ใต้ดินจะช่วยลดความสูญเสียของพลังงานได้มากขึ้น

· ลดอันตรายจากการชน บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวรถชนเสาไฟ ฉะนั้นถ้าไม่มีเสาก็จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกับเสาไฟฟ้าได้

· สบายตา ถ่ายรูปได้โดยไม่ติดสายไฟ

ข้อเสียของการนำสายไฟลงดิน

· ต้นทุนสูง

· ความเสียหายจากการขุด เช่น อาจจะขุดโดนท่อน้ำ หรือถ้ามีต้นไม้ขวางเส้นทางก็จำเป็นต้องขุดรากต้นไม้ออก เป็นการทำลายระบบรากพืช

· ความเสี่ยงจากการชำรุด ถ้ามีฝนตกหนักจนน้ำขัง หรือพื้นที่น้ำท่วม สายไฟก็ชำรุดได้ง่ายกว่า และเวลาซ่อมจะต้องใช้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า

ในขณะที่การมีเสาไฟฟ้าก็มีข้อดีหลายอย่าง อย่างเช่น การส่งไฟฟ้าไปยังที่ต่างๆ ทำได้เร็วและสะดวกมากกว่า เวลาชำรุด ตรวจสอบ ซ่อมแซม ก็สังเกตและทำได้ง่าย และที่สำคัญเลยคือเสาไฟฟ้าแข็งแรง ทนฟ้าทนฝน ทนต่อสภาพอากาศ จะร้อน หนาว ฝน แผ่นดินไหว เสาไฟก็ยังตั้งตระหง่านโชว์ความแข็งแรง ดุดัน ไม่เกรงใจใคร

สรุปสายไฟลงดิน ดีกว่ามีเสาไฟฟ้าจริงหรือ?

การเลือกใช้ว่าจะนำลงดินหรือมีเสาไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละพื้นที่ เช่น ถ้าเป็นพื้นที่ที่มีอาคารสูง ตามถนนใหญ่ การใช้เสาไฟฟ้าจะเหมาะสมมากกว่า ในขณะเดียวกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเช็คอิน เป็นมุมที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูป การนำสายไฟลงดินก็จะช่วยทำให้ภูมิทัศน์สวยงามมากขึ้น สรุปคือ ไม่มีวิธีดีที่สุดหรือไม่ดี แต่การเลือกใช้ต้องเลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของพื้นที่นั้นๆ